ยินดีต้อนรับครับ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมบล็อก 28 ท่าฝึกโยคะ (จริงๆ แล้วมี 40-50 ท่า) ตามคำกล่าวที่ว่า "สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอาเอง" ลองทำตามกันดู เพื่อสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง แค่ขยับก็เท่ากับออกกำลังกายครับ

วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555

การเตรียมตัวสำหรับฝึกโยคะ

ผู้ที่จะฝึกโยคะ  ควรเตรียมตัว ดังนี้
        1. ทานอาหารแล้ว 1-2 ชม. ขึ้นอยู่กับอาหารหนักเบา " อาหารที่ท่านใส่ปากต่อไปอีกหลังจาก " รู้สึกอิ่ม " แล้วนั้นเกือบไม่ต่างกันเลยกับ " ยาพิษ " อ่อน ๆ ที่จะเกิดโทษแก่ท่านในภายหลัง "
        2. เวลาที่ดีที่สุดคือเช้าตรู่ หรือบ่ายค่อนไปถึงเย็น
        3. สถานที่ต้องมีลมโกรก ไม่ร้อนอบอ้าว
        4. เครื่องแต่งกายที่สามารถเคลื่อนไหวได้โดยสะดวก
        5. อุปกรณ์ ถ้าพื้นไม่ได้ปูพรม ต้องมีผ้าหนาพอสมควร (ผ้าห่ม) ปูรองตัวเวลาเล่นทุกครั้ง (เพื่อกันเจ็บหลัง หัวเข่า ในท่านที่จำเป็นต้องรองรับ)
        6.ปฏิบัติอาสนะโดยแช่มช้า นุ่มนวล
        7. ในระหว่างอาสนะนั้นต้องนอนพักทุกครั้งไป หลังจากทำแต่ละอาสนะเสร็จแล้ว
        8. ต้องหายใจอย่างธรรมชาติ คือ ไม่เกร็งกล้ามเนื้อตรงคอ หรือทำหน้านิ่ว ไม่ทำจมูกบี้ และต้องไม่มีเสียงดังด้วย
        9.ใจเย็น ๆ อย่าหักโหม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้มีวัยพ้น 40 ไปแล้ว
ประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกโยคะนั้นมีอเนกประการ โดยย่อดังนี้คือ
1. ทำให้เกิดความสงบแก่จิตใจและหัวใจ
       2. มีอำนาจใจ อำนาจปัญญา และอำนาจความรักสูง
       3. ทำให้กำลังใจมีอำนาจเหนือร่างกายและโลกภายนอก
       4. สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ในปัจจุบันและอนาคตได้หลายอย่าง
       5. สามารถควบคุมจิตใจได้ดีและมีอำนาจในการเพ่งเล็งสูง
       6. ควบคุมอารมณ์ได้ดี นั่นก็คือ ทำลายความวิตกกังวล ความหยิ่งผยอง ความโกรธ ความกลัว ให้หมดสิ้นไป
       7. ทำให้ร่างกายมีสุขภาพสมบูรณ์ มีความอ่อนช้อย ความงาม และอายุยืน
       8. กำจัดโรคร้าย และอันตรายต่าง ๆ ที่เกิดจากสภาพของจิตใจไม่ปกติ
การหายใจ
   การปฏิบัติอาสนะการหายใจ นับว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญที่สุด เพราะหาก ปราศจากการหายใจอันถูกต้องเสียแล้ว การทำอาสนะก็เกือบจะไม่มีความหมายและอย่างมากก็เป็นเพียงการออกกำลังตาม ธรรมดาเท่านั้น 
        โยคะแบ่งการหายใจออกเป็น 4 ประเภทคือ หายใจสูง หายใจกลาง หายใจต่ำ และหายใจแบบโยคี 
        1. หายใจสูง เป็นแบบที่เรียกว่า หายใจ ด้วยไหปลาร้า ( Collarbone Breathing) เวลาหายใจเข้า ผู้หายใจแบบนี้จะเผยอซี่โครงและยกไหปลาร้ากับไหล่ขึ้นในเวลาเดียวกันก็แขม่ว ท้องเข้าไปดันกระบังลมที่ช่องท้อง ( Diaphragm) ให้ยกขึ้นไปด้วยซึ่งเท่ากับว่าใช้ส่วนบนของหน้าอกและปอด ซึ่งเป็นส่วนเล็กที่สุดหายใจนั่นเอง นั่นก็คือ หายใจเอาอากาศเข้าไปได้น้อย เป็นการหายใจแบบที่เลวที่สุด 
        2. หายใจกลาง การหายใจแบบนี้เรียกกันว่า หายใจระหว่างซี่โครง ( Intercostal Breathing) การหายใจกลางนี้ มีการขยายซี่โครงบางส่วนและยกขึ้นเล็กน้อยและยังมีการดันกระบังลมให้ยกขึ้น ด้วยพร้อมกับการแขม่วท้องเข้า แบบนี้ดีกว่าแบบแรก
        3. หายใจต่ำ เป็นการหายใจที่เกือบดีที่สุด เพราะเป็นการหายใจด้วยท้องซึ่งอาจเรียกได้ว่าหายใจลึก และควรจะเป็นการหายใจของคนโดยทั่วไป การหายใจต่ำหรือหายใจด้วยท้องก็คือ เมื่อหายใจออกให้แขม่วท้องเข้าพร้อมกับยกซี่โครงขึ้น อันหมายถึงกระบังลม ย่อมจะถูกดันให้ยกขึ้นด้วย ช่องอกถูกบีบเข้าไปทำให้อากาศเสียในปอดถูกขับออกจากร่างกายเป็นจำนวนมาก เวลาหายใจเข้าให้ขยายท้องให้ป่อง ตรงกันข้ามกับหายใจออก การทำเช่นนี้จะทำให้กระบังลมหย่อนลง ทำให้ปอดมีที่ว่างที่จะขยายตัวได้มาก หมายถึงสูดอากาศได้มากนั่นเอง
        4. หายใจแบบโยคี หรือการหายใจสูงกลางต่ำรวมกัน การหายใจแบบนี้เป็นการหายใจที่ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์ค้นพบ จะกล่าวถึงการหายใจและวิธีทำโดยละเอียดในตอนปราณยามะ
        ขอแนะนำให้ฝึกการหายใจต่ำหรือหายใจด้วยท้องตลอดเวลาที่ปฏิบัติ หากเป็นไปได้ควรหัดหายใจแบบนี้เป็นนิสัย แม้ในเวลาปกติจะทำให้เป็นหวัดยากและร่างกายก็จะกระชุ่มกระชวยขึ้นด้วย 
        กายบริหารแบบโยคะที่มีคุณประโยชน์แก่ร่างกายมากที่สุดท่าหนึ่ง ไม่ยากแก่การปฏิบัติและใช้เวลาเพียงเล็กน้อย ก็คือ " สุริยะนมัสการ " หรือท่า " ไหว้พระอาทิตย์
        ท่านคุรุเทพสวามีศิวะนันทะแห่งเมืองฤาษีเกษอินเดีย ผู้เป็นมหาคุรุของผู้เขียน ได้กำหนดให้ทำท่าไหว้พระอาทิตย์นี้เป็นท่าแรกหรือท่าครู 
        ทำไมจึงต้องทำท่าไหว้พระอาทิตย์ ? คำตอบ ก็คือ พระอาทิตย์เป็นแหล่งพลังทั้งมวลในจักรวาลไม่เพียงแต่ทุกชีวิตจะไม่อาจอุบัติ ขึ้นหรือคงอยู่ต่อไปได้ ถ้าปราศจากเสียซึ่งพระอาทิตย์เท่านั้น หากโลกและจักรวาลทั้งหมดยังจะพังพินาศไปด้วย เป็นเวลาหลายพันปีมาแล้วที่มนุษย์ได้พัฒนาวิทยาการและวิธีการเพื่อรับและใช้ ประโยชน์จากแหล่งพลังอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ 
        สุริยะนมัสการ เป็นแบบของการออกกำลังที่นับได้ว่าไม่ยากมีท่าที่จะต้องปฏิบัติติดต่อกัน 12 ท่า แต่ละท่าได้มีการกำหนดลมหายใจไว้ด้วยเป็นท่า หรืออาสนะที่ประกอบด้วยปราณยามะหรือการควบคุมลมปราณ ซึ่งเป็นองค์หนึ่งในองค์แปดประการของโยคะผสมอยู่ด้วย มีการหายใจเข้า หายใจออกและกลั้นหายใจติดต่อกันไปตามการเคลื่อนไหวของท่าทางที่ปฏิบัติอยู่ 
        สุริยะนมัสการเป็นการออกกำลังที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่มนุษย์คิดได้ ทำให้ท่านสามารถปรับตัวของท่านให้เข้ากับแหล่งพลังของคอสมิค ซึ่งได้แก่ พระอาทิต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ชม Video โยคะ

โยคะสำหรับผู้เริ่มต้น